เที่ยงวันหนึ่ง เมื่อฉันกับเพื่อนร่วมงานพากันไปทานกลางวันที่ร้านอาหารตามสั่งข้างทางเจ้าประจำ ทันทีที่ไปถึงพวกเราก็สั่งอาหารจานโปรด คุณลุงกับคุณป้าจึงลงมือทำพลางพูดคุยกับพวกเราเรื่องช่วงหลังเที่ยงค่อนบ่ายลูกค้าจะลดลง เนื่องจากตอนเที่ยงได้ออกมาทานกันหมดแล้ว ทำให้คุณลุงกับคุณป้านั่งตบยุงรอลูกค้าที่จะมาช่วงเย็น พอได้ยินแบบนั้นฉันกับเพื่อนก็ตัดสินใจแนะนำคุณลุงกับคุณป้า เผื่อว่าจะช่วยได้บ้าง ฉันเริ่มเกริ่นเข้าเรื่อง โดยถามทั้งสองว่า โทรศัพท์มือถือได้ต่ออินเตอร์เน็ตหรือไม่ แล้วโน้ตบุ๊กมีหรือเปล่า คุณป้าได้บอกว่า มือถือเครื่องของคุณลุงมีแพ็กเกจอินเตอร์เน็ต แล้วที่บ้านก็มีโน้ตบุ๊กของลูกสาวว่างอยู่หนึ่งเครื่อง เพราะลูกสาวได้โน้ตบุ๊กใหม่ที่สำนักงานซื้อให้ ของเดิมจึงวางไว้เฉยๆ รู้เท่านั้นล่ะ ฉันจึงบอกกล่าวเชิงขยายความพร้อมกับทดลองเปิดการใช้งานและให้คุณลุงกับคุณป้าดูหนังฟรีออนไลน์เป็นการชิมลาง แล้วทั้งสองก็ขอบอกขอบใจพวกเราและถือโอกาสตอบแทนด้วยการเลี้ยงข้าวหนึ่งมื้อ แม้ฉันกับเพื่อนบอกว่าไม่เป็นไร แต่คุณลุงกับคุณป้าก็ไม่ยอมและบอกว่า ถ้าพวกเราไม่ช่วยชี้แนะ ทั้งสองก็คงจะต้องนั่งตบยุงกันไปหลายชั่วโมงเลย หลังจากที่ให้คุณลุงกับคุณป้าทดลองใช้งานและถามไถ่ข้อสงสัยต่างๆ กระจ่างแล้ว ฉันกับเพื่อนก็กลับไปทำงาน
แล้วในวันเดียวกันนั้นเอง ช่วงพักเบรกดื่มกาแฟยามบ่าย ที่ ห้องครัวเล็กๆ ของที่ทำงาน อยู่ๆ พี่แม่บ้านผู้กำลังล้างแก้วกาแฟอยู่ก็ถามฉัน ‘น้องพอจะมีอะไรแนะนำให้ได้ความบันเทิงบ้างไหม เวลากลางคืนพี่ดูแต่ทีวีจนชักจะเบื่อแล้ว’ ได้ยินแบบนั้น ฉันก็ไม่รีรอที่จะบอกกล่าวเรื่องที่เพิ่งแนะนำคุณลุงกับคุณป้าร้านอาหารตามสั่งไป ฉันอธิบายขั้นตอนต่างๆ และให้พี่แม่บ้านสอบถามสิ่งที่สงสัย พอพี่แม่บ้านเข้าใจก็บอกจะลองทำตามนั้น ฉันเห็นสีหน้าของพี่แม่บ้านมีประกายเหมือนปลอดโปร่งโล่งใจ ฉันหวังว่า พี่แม่บ้านน่าจะได้รับความบันเทิงและคลายเบื่อได้สมใจอยาก วันรุ่งขึ้น พี่แกอาจจะมีเรื่องพูดคุยกับใครๆ ในบริษัท แล้วหากพี่แม่บ้านได้พบกับมีความสุข แกคงจะบอกต่อเพื่อนฝูงและญาติพี่น้อง ซึ่งอีกหลายคนก็จะได้พบกับความรื่นรมย์ที่หาได้ไม่ยากเลย
สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทำให้ฉันได้รู้ว่า การบอกกล่าวต่อๆ ให้ผู้คนพบความบันเทิงและสุขใจ มันเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง เพราะเป้าหมายหลักของการทำบุญคือ ‘ความสุข’ แล้วความสุขที่ยั่งยืนนั้นก็คือ ความสุขทางใจ ดังนั้นการช่วยให้ใครๆ สุขใจช่างดีนักแล อีกอย่างผู้ที่จะพบกับความสุขที่ว่าไม่จำเป็นจะต้องมีตำแหน่งสูง การงานดีเลิศ เงินเดือนแพงๆ เพราะจะหน้าที่การงานแบบไหนก็จับต้องสิ่งนี้ได้ เพียงแต่ทุกคนควรพึงรู้เรื่อง…เวลาไหนควร เวลาไหนไม่ควร…มิใช่ ดูแบบไม่เลือกที่ไม่เลือกเวลา มันจะทำให้เกิดความสุขแบบปลอมๆ เนื่องจากมันไม่ถูกไม่ควร แต่หากเลือกสรรเวลาได้ดี ไม่เบียดบังหน้าที่การงาน ความสุขแท้จริงก็จักบังเกิดแถมยังเป็นความสุขอันถูกที่ถูกทางอีกด้วย เช่นนี้ ‘อาชีพไหนก็ดูหนังฟรีได้’ นะจ๊ะ